- นานมาแล้วที่ไม่ได้ up blog สักที ช่วงที่กำลังเห่อก็นั่งเฝ้าทั้งวันแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรกะมันนักหรอก แต่แล้ววันนี้ ก็นึกถึงขึ้นมาได้จากการนั่งดูคนอวดผี (เอ๊ะดูจะไม่เกี่ยว) แต่เพราะด้วยความที่เสิร์ทไปเรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่องผีในย่านพุทธมณฑล แล้วก็ไปเจอกับบทความใน
- http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1262150 เลยทำให้นึกถึงครั้นสมัยที่เราเรียนที่มหิดล ศาลายา เอาล่ะมาดูบทความที่ขออนุญาตลอกเค้ามาทั้งหมดละกัน
- คณะต่างของมหาวิทยาลัยมหิดลนิยมเรียกเป็นชื่อย่อภาษาอังกฤษ ทำให้งานหลักของเด็กปีหนึ่งคือนั่งท่องตัวย่อเหล่านั้น
- มหิดล ศาลายาตรงสะพานข้ามคลอง ทางด้านตึกคณะสิ่งแวดล้อม ถ้าเจอเต่าในคลองข้างซ้ายจะอกหัก ถ้าเจอเต่าในคลองข้างขวาจะติด F แต่ถ้าเจาตัวเห้ ถ้าเห็นมันขึ้นคลองบุ๋ยจะได้ A แต่ถ้าเห็นมันลงคลองบุ๋ยจะได้ F
- ว่ากันว่าที่คาเฟต มีร้านอาหารชื่อร้าน "ป้าแจ๋ว" แต่ไม่มีใครเคยเห็นป้าแจ๋วสักที
- ร้านป้าเสธ (ร้าน11) มีข้าวยำไก่แซบ ป้าบอกว่า "ชั้นทำก่อน เค เอฟ ซี นะยะ" บางคนมักจะเรียกป้าเสธ.ว่าป้าเซ็ง
- มีแมงทับอยู่ในสวนสมุนไพร!!!!! แมงทับมี 8 ขา มีเฉพาะตอนมืดๆ บางครั้งอาจพบเศษเสื้อผ้าตกอยู่ข้างแมงทับ บางครั้งพบแมงทับในรถด้วย
- ลอยกระทงที่เรือนไทย ถ้าลอยกับแฟนแล้วจะเลิกกัน
- ในมหิดลมีป้ายรถเมล์ แต่รอเท่าไหร่ก็ไม่มีรถเมล์มาจอดหรอก
- เดี๋ยวนี้เขามีรถรางให้บริการแล้ว แถมทำป้ายรถเมลล์เพิ่มอีกต่างหาก (ทำป้ายซะถี่เชียว เพื่อออ)
- 80% ของเด็กมหิดลอยากดูเรื่อง Season Change เพราะมันถ่ายที่ศาลายา, 15% เพราะนางเอก, 5% เพราะพระเอก
- 90% ของเด็กมหิดลต้องเคยทำสายกางเกงเล พันกับล้อจักรยาน
- 80% ของเด็กมหิดลเป็นเด็กต่างจังหวัด
- มหิดลมีถนนดวงดาว แต่ที่มันเหมือนดวงดาวนั้นเพรามีเศษแก้วระยิบระยับอยู่เต็มพื้น
- มหิดลศาลายา เค้าว่ากันว่าผีดุมาก
- หมาหนึ่งตัวที่มหิดลมีมากกว่า 100 ชื่อ
- Cafet คือโรงอาหารชื่อสุดหรู แต่มันย่อมาจาก cafeteria
- ก๋วยเตี๋ยวแม่ ที่วิทยาเขตศาลายา อร่อย และแพง เป็นที่มาของชื่อร้านเพราะกินไปกินมาจะคิดถึงแม่ (ไม่มีเงินจ่าย - -")
- ที่โรงช้างถูกเรียกว่าโรงช้าง เพราะเมื่อก่อนมันจะมีเสียงแปร๋นตอน 2 ทุ่ม (เสียงออดปิดโรงช้าง)
- กิจกรรมยามว่างของชาวศาลายาคือ "ลอกเล็กเชอร์ เดินเหม่อหน้าเซเว่น กินปังเย็นหน้าประตูหนึ่ง คิดถึงแฟน วางแผนปีนหอ"
- ยุงทีศาลายากัดทะลุกางเกงยีนส์ได้ และบางครั้งการตบยุงครั้งเดียวได้ยุงถึง 3 ตัวก็มี
- เรามีสวนจิงโจ้เป็นของตัวเองโดยไม่ต้องถ่อไปดูถึง ออสเตรเลีย ^^ ที่มาของชื่อสวนจิงโจ้ มาจากถังขยะที่เป็นปูนปั้นรูปจิงโจ้นั่นเอง (จิงโจ้ตัวเหม็นพิลึก - -")
- จนบัดนี้ มีหลายคนยังงอยู่ว่ามหิดลมีกี่คณะ และกว่า 90% ของคนที่ยังงงอยู่ จะงงหนักกว่าเดิมเพราะไม่รู้ว่ามหิดลมีทั้งหมดกี่วิทยาเขต ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ไม่ชอบให้เรียกศาลายา พญาไท ศิริราช กาญจนบุรีหรือที่อื่นๆว่าวิทยาเขต..เพราะทำให้รู้สึกว่าแบ่งแยก..แต่มันก็ แยกกันอยู่จริงๆนะ
- กลุ่มการเมืองในมหาวิทยาลัยมีอยู่กลุ่มเดียวที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสโมสรนักศึกษา..ก็คือสโมปีก่อนนั่นแหละ
- ศาลายาสโตร์มีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์ ถามดูได้สิ่งที่คุณต้องการมันหลบอยู่ในซอกโน่น และซอกนี่ แต่ถ้าใครเข้าไปซื้อของที่สโตร์แล้วมักจะได้อย่างอื่นที่ไม่ได้ตั้งใจจะไปซื้อแต่แรก (--")
- หอสมุดกลางด้านปีกซายแอร์เย็นสบายดุจสวรรค์ แต่ถ้าไปปีกขวาจะตรงกันข้ามทันที ถามทีไร "หลังคามันสูงแอร์เลยไม่เย็น"
- เมท คือ คนที่มีผลต่อการเรียนของเราไม่น้อยไปกว่าตัวเรา ถ้ามันขยันเราก็ขยัน ถ้ามันพากันเจ๊งบอล เราก็มักจะเจ๊งตามมันด้วย T-T
- L หรือ Lecture room สถานที่เป็นมากกว่าห้องเรียน แต่ใช้ทำอย่างอื่นได้ด้วยเช่น กินขนม อ่านการ์ตูน คุยกับกิ๊ก และที่ยอดฮิตคือเฝ้าพระอินทร์ บางวันโชคดีอาจได้ไปขั้วโลก
- องค์พระ ที่ปรกติแทบไม่มีคนสนใจแต่ช่วงใกล้สอบควันจะพุ่งขึ้นอย่างกับมีไฟไหม้
- เอนกฯ อาคารเอนกประสงค์ที่ทำได้ทุกอย่างพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะซ้อมเชียร์ ซ้อมกีฬาในร่ม และอบซาวน่า
- ศูนย์สุขภาพ เป็นกี่โรคก็หายได้ด้วย พาราเซตามอล
- สิ่งมหัศจรรย์ในมหิดล ศาลายาคือแทงค์น้ำรูป Pyramid กลับหัว
- ตึกหน้าม. 3ตึก สามารถรวมร่างเป็นหุ่นยนต์ได้ โดย มีตึก OP(ตึกอธิการบดีใหม่) ตึก Inter(MUIC) และตึกคณะวิศวะใหม่(ตึกRobot) ตึกโรบอทมีชื่อเล่นหลายชื่อทั้งตึกแดง ตึกศาลเจ้า และตึกบิ๊กซี
- 7-11 ศาลายา นั้นปิดทำการปีละ 1ครั้งช่วงปิดเทอมใหญ่เพื่อเช็ค stock หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป พนักงานเซเว่นในม.จะสามารถวิ่งไล่จับกันในร้านได้
- เด็กในคณะดุริยางคศิลป์ ชอบกินไข่คนกะข้าว
- ในทีแรกแล้วต้นไม้ประจำมหิดลคือ ต้นศรีตรัง แต่ภายหลัง มอ.ได้นำไปขึ้นเป็นต้นไม้ประจำมหาลัยก่อน มหิดลเลย ต้องหาใหม่ จนได้ต้นกันภัยมหิดล ซึ่งเป็นต้นไม้ล้มลุกประเภทเลื้อย ผิดกับม.อื่นๆที่เป็นไม้ยืนต้น
- ลานmusic hall เล็กๆ ด้านข้างศูนย์นันทนาการ เคยรองรับการบรรเลงโชว์จากวงออเคสตร้าระดับโลกมาแล้วหลายครั้งไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่มันแคบและเล็กขนาดนั้นเนี่ยนะ
- มหิดลมีชมรมยิงปืน และมีสนามยิงปืน แต่ยิงได้แต่ปืนลม ถ้าจะยิงปืนจริง ต้องนั่งมอไซค์รับจ้างไปสนามตำรวจ แถวประตูสาม
- ตลาดนัดวันศุกร์เป็นตลาดนัดที่อายุยืนยาวคงทน ผ่านไปเป็นสิบปีแล้ว พ่อค้าแม่ค้าก็ยังขายของเหมือนเดิมทำเลเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แถมขยายอาณาเขตพื้นที่อีกต่างหาก อีกไม่กี่ปีก็น่าจะสามารถโปรโมตเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตลาดนัดโบราณได้แล้วล่ะ
- หลังจากปิดเป็นความลับมานาน ก็ปรากฏความจริงที่ว่า เขตหวงห้ามเฉพาะ area51 เอ้ย ชั้นสี่ ตึกICT ไม่ได้เป็นที่ลงจอดจานบิน ไม่ได้เป็นที่แล็บของอัมเบรลล่า แต่เป็นแค่ห้องประชุม
- เชื่อกันว่าในคืนวันมหิดล นักศึกษาแพทย์ศิริราช (SI)ที่นอนเตียง C ในหอใน จะเจอของดีหากนอนในคืนนั้น เนื่องมาจากนักศึกษาSIที่ถูกรถชนตายจะกลับมาเตียงเดิมของเขา บางกระแสบอกด้วยว่าให้พยายามหาของไว้บนเตียงไม่ให้ว่าง
- ยาม หรือ พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ศาลายา น้อยกว่าที่ รพ .ศิริราช ซึ่งมีพื้นที่น้อยกว่าแล้วก็มีที่เปลี่ยวๆน้อยกว่าด้วย
- วันมหิดล แต่เด็กที่วิทยาเขตอื่นๆมักไม่เคยได้ทำอะไร ส่วนเด็กศิริราชหนักหน่อย เพราะขายธง และในวันนี้จากโรงพยาบาล จะถูกเปลี่ยนเป็นโรงงานนรก
- ร้านขายยาหน้าศิริราช ขายยาถูกที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นปลึกหรือส่ง ก็ราคาเท่ากัน แถมเท่ากันแทบทุกร้านด้วย
- ส้วมที่คณะวิทย์ตึก B น่ากลัวที่สุด ถ้ามือถือตกลงไปแล้วก็อย่าเสี่ยงมุดหัวไปเอาเลย ตัดใจราดทิ้งไปเถอะ
เอาล่ะจบแล้วมาวิเคราะห์กันดีกว่า เราคาดว่าคนเขียนบทความนี้น่าจะเด็กกว่าเราสักหน่อย แต่ไม่เกิน 30 แน่ๆ เพราะในหลายๆเรื่องก็มีเฉพาะเด็กในรุ่นใหม่ๆเท่านั้นที่จะทราบและคงมีอีกหลายเรื่องที่เป็นเรื่องเก่าๆที่เค้าก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ในขณะที่ปัจจุบัน ศาลายา อาจไม่ได้เป็นแบบเรื่องนี้แล้วก็มี เช่นสวนจิงโจ้ ก็ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่ทีไม่มีจิงโจ้อีกต่อไป ศาลายาสโตร์ ณ วันนี้มีคู่แข่ง ทั้งร้านทอป แล้วร้านของตั้งฮั่วเส็งอีก แมงทับปัจจุบันไม่น่ามีแล้ว เรื่องของสวนสมุนไพรเข้าใจว่าเด็กเดี๋ยวนี้คงไม่เข้าไปกันเท่าไรนักเพราะมีสิ่งให้บันเทิงและพักผ่อนในมหาวิทยาลัยอีกจำนวนมาก จะว่าไปแล้วแอบอิจฉาเล็กๆกับเด็กสมัยนี้ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่ก็คงขาดกลิ่นอายความเป็นศาลายาในสมัยอดีตไปด้วยมากเหมือนกัน